วิธีต่อสายไฟพัดลมอุตสาหกรรม แบบ 1 เฟส และ 3เฟส ?
อุปกรณ์ที่ควรเตรียม
- พัดลมอุตสาหกรรม พร้อมสายไฟแบบเปลีอย
- เซอร์กิต เบรกเกอร์ สำหรับต่อไฟ 1 เฟส / เซอร์กิต เบรกเกอร์ สำหรับต่อไฟ
- เฟส 3. สายไฟพร้อมขั้วปลั๊กเสียบ
- ไขควง
การต่อไฟสำหรับพัดลมอุตสาหกรรม ระบบไฟฟ้า 1 เฟส ( 220V.)
ระบบไฟฟ้า 1 เฟสจะมีทั้งหมด 2 สาย
- สาย N (สีฟ้า)
- สาย L (สีน้ำตาล)
ระบบไฟฟ้า 1 เฟส (Single phase) เป็นระบบไฟที่ใช้กันในบ้านเรือนทั่วไปเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ มีการจ่ายไฟที่เหมาะสมต่อหลอดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบไฟ 1 เฟส จะให้แรงดันไฟฟ้าที่ 220V ความถี่ไฟฟ้าที่ 50Hz. มีสายจำนวน 2 เส้น เส้นที่มีกระแสไฟฟ้าเรียกว่าสายไฟ หรือสายเฟส หรือเรียกว่าสายเคอร์เรนต์ (current line) สามารถวัดได้โดยการนำไขควงวัดไฟวัดส่วนอีกเส้นจะเป็นสายที่ไม่มีกระแสไฟเรียกว่าสายนิวทรัล (neutral line) หรือสายศูนย์ แต่เมื่อเวลาใช้งานกับหลอดไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้ร่วมกันทั้ง 2 สายเพื่อให้กระแสไฟฟ้าครบวงจร
และ สายกราวด์ (สีเขียว/เหลือง) จะเห็นได้จากปลั๊กไฟตามบ้านที่มีช่องเสียบอยู่ 2 ช่อง และมีปลั๊กที่มี 3 ช่องเป็นระบบไฟ 1 เฟสเหมือนกัน แต่ที่มี 3 ช่อง เนื่องจากอีกช่องหนึ่งเป็นช่องที่ต่อกับสายดิน (ground) เพื่อให้กระไฟฟ้าไหลลงดินเมื่อเกิดไฟรั่วเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานและอุกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบสายดินนี้จะเป็นปลั๊กแบบ 3 ขาซึ่งในต่างประเทศถือเป็นระบบมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไป
การต่อไฟสำหรับพัดลมอุตสาหกรรม ระบบไฟฟ้า 3 เฟส ( 380V.)
ระบบไฟฟ้า 3 เฟสจะมีทั้งหมด 3 สาย
- สาย L1 (สีน้ำตาล)
- สาย L2 (สีดำ)
- สาย L3 (สีทา)
ระบบไฟฟ้า 3 เฟส นอกจากจะใช้ในโรงงานแล้ว ยังสามารถนำไปใช้งานกับที่พักอาศัยได้ แต่ต้องเป็นที่พักอาศัยที่มีขนาดใหญ่ ระบบไฟ 1 เฟส อาจไม่เพียงพอจึงจำเป็นต้องใช้ระบบไฟ 3 เฟส แต่การใช้ระบบไฟ 3 เฟส จะมีขั้นตอนในการขอติดตั้งยุ่งยากและค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่อนข้างสูง เพราะจะต้องจ่ายทั้งค่าประกันไฟฟ้าและค่าติดตั้ง ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงในตอนต้น แต่ในระยะยาวจะสามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่าการใช้ระบบไฟ 1 เฟส
การนำระบบไฟฟ้า 3 เฟสมาใช้งาน ไม่สามารถนำมาใช้ได้โดยตรง แต่จะต้องมีการแปลงระบบไฟ 3 เฟส ให้เป็นระบบไฟ 1 เฟสก่อน กล่าวคือการแยกระบบไฟ 3 เฟสออกเป็น 3 ชุดชุดละ 1 เฟส แล้วกระจายไปตามจุดที่มีการใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เน้นเฉลี่ยการใช้ไฟในแต่ละส่วนที่เท่าๆกัน ทำให้กระแสไฟมีความสมดุล สามารถใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า และการให้แสงสว่างภายในบ้านได้อย่างเหมาะสม การกระจายจุดเฉลี่ยการใช้ไฟฟ้าช่วยให้ประหยัดค่าไฟ เนื่องจากเฟสไฟน้อยจึงไม่ต้องเสียค่าไฟในอัตราที่สูง
มาตรฐานสายไฟใหม่ มอก.11-2553 เป็นอย่างไร
มาตรฐานสายไฟใหม่ มอก.11-2553 ที่ประกาศเป็นมาตรฐานบังคับตามพระราชกฤษฎีกา ที่กำหนด ให้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายไฟฟ้าหุ้มฉนวนพอลิไวนิลคลอไรด์ แรงดันไฟฟ้าที่กำหนดไม่เกิน 450/750 โวลต์ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก.11-2553 (ซึ่งของเดิม เป็น มอก.11-2531) ซึ่งมีการ เปลี่ยนแปลงพอจะสรุปได้ดังนี้
- มาตรฐาน มอก.11-2553 นี้ส่วนใหญ่อ้างอิงมาตรฐานสายไฟมาจาก IEC Standards 60227 การแบ่งชนิดของสายไฟฟ้าจะแบ่งตามมาตรฐาน IEC เป็นรหัสตัวเลข 2 ตัว แต่เนื่องจากป้องกันความ สับสน ผู้ผลิตจะระบุชื่อเดิมไว้ให้เช่น60227 IEC 01 (THW
- สีของฉนวนสายไฟจะกำหนดใหม่โดยเรียงจาก เฟสA, B, C, N, G ดังนี้น้ำตาล ดำ เทา ฟ้า เขียวแถบเหลือง ตามมาตรฐาน IEC จากมาตรฐานเดิมที่เป็น ดำ แดง นํ้าเงิน ขาว(เทา) เขียว การใช้งานจะต้องเพิ่มความระมัดระวังโดยเฉพาะโครงการที่มีระยะเวลายาว หรืองานต่อเติมซ่อมแซมที่จำเป็นต้องใช้สายทั้ง2มาตรฐานในงานเดียวกันเช่นสายVAFที่เดิมใช้สีเทาเป็นสายนิวทรัล แต่ต่อไปนี้สายเส้นสีเทาจะเป็นสายเฟสที่มีไฟแล้ว ดังนั้นการทำ เครื่องหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่
- กำหนดแรงดันใช้งาน 2ค่าU๐/Uไม่เกิน450/750โวลต์มีผลทำ ให้สายไฟฟ้าบางชนิดเช่นสายVAF ที่ตามมาตรฐานเดิมไม่สามารถนำมาใช้กับระบบ3 เฟส4สาย230/400 โวลต์ได้แต่มอก.11-2553 ให้ใช้ได
- อุณหภูมิที่ใช้งาน กำหนดไว้2 ค่าคือ70 และ90 องศาเซลเซียส ขณะที่มาตรฐานเดิมกำหนดไว้ 70 องศาเซลเซียสค่าเดียว จากการเปลี่ยนแปลงข้างต้น วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้ ปรับปรุงมาตรฐานการติดตั้งให้สอดคล้องกับสายไฟฟ้ามาตรฐานใหม่โดย ซึ่งมีข้อแตกต่างจากมาตรฐาน เดิมพอสมควร
การคำนวนหาขนาดสายไฟฟ้าเพื่อนำ ไปใช้งานควรจะพิจารณาตามขั้นตอนดัง ต่อไปนี้
- คำนวนโหลดหาค่ากรพแสที่ใช้งานน และกำหนดขนาดเครื่องป้องกัน
- พิจารณาชนิดของสายไฟฟ้าจำนวนตัวนำกระแส2เส้นหรือ3เส้น(1เฟสหรือ3เฟส)ลักษณะของ สายไฟเป็นแบบแกนเดียวหรือหลายแกน ล้วนแต่มีผลต่อการเลือกใช้ตารางกระแสไฟฟ้าทั้งสิ้น
- พิจารณาวิธีการติดตั้งซึ่งแบ่งเป็น7 กลุ่ม(มาตรฐานเดิมมี5 กลุ่ม) ที่น่าสังเกตุคือ การเดินสายร้อย ท่อภายในฝ้าเพดานหรือผนังทนความร้อน มีค่ากระแสแตกต่างจากการเดินสายร้อยท่อลอยหรือ ฝังในคอนกรีต ตัวอย่างเช่น ถ้าโหลด3 เฟส คำนวณขนาดเครื่องป้องกันได้100 แอมแปร์กรณี ที่เลือกใช้สายไฟฟ้า60227IEC01(THW) เดินสายร้อยท่อลอยเกาะผนังหรือเพดาน จะต้องใช้สาย ขนาด50 ตร.มม. แต่ถ้าเป็นการเดินสายร้อยท่อภายในฝ้าเพดาน จะต้องใช้สายขนาด70 ตร.มม.
- พิจารณาตัวคูณปรับค่า เนื่องจากอุณหภูมิโดยรอบ ซึ่งกำหนดที่40 องศาเซลเซียสในกรณีทั่วๆ ไป และ 30 องศาเซลเซียสในกรณีฝังดิน
- พิจารณาตัวคูณปรับค่า เนื่องจากกลุ่มวงจรในกรณีที่มีตัวนำกระแสมากกว่า1 วงจร โดยพิจารณา วงจร1 เฟส2สายนับเป็น1 วงจร วงจร3 เฟส3สายหรือ4สายนับเป็น1 วงจร ในกรณีนี้ส่วนใหญ่ จะใช้ในการเดินสายในรางเคเบิล (cable tray) ที่มีการปรับปรุงแก้ไข ที่สำคัญคือ ไม่อนุญาตให้ ใช้สายไม่มีเปลือกติดตั้งในรางเคเบิล และในมาตรฐานเดิมกำหนดให้สายในรางเคเบิลจะต้องไม่ เล็กกว่า 50 ตร.มม. มาตรฐานใหม่ยอมให้ถึงสายขนาด25 ตร.มม.
- ขนาดกระแสจากการปรับค่าในขัอ 4 และข้อ 5
- หาขนาดสายไฟฟ้าจากตารางที่ถูกเลือกในข้อ 3 มาตรฐานใหม่นี้ในระยะแรกยังไม่มีความคุ้นเคยอาจสับสนอยู่บ้าง คงต้องค่อยๆ พิจารณาตามลำดับ ไปก่อน หลังจากนั้นคงคุ้นเคยเหมือนมาตรฐานเดิม ในส่วนรายละเอียดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าฉบับปรับปรุงใหม่ของ วสท.
เคล็ดลับจากการติดตั้งพัดลมอุตสาหกรรมแบบผู้เชี่ยวชาญที่จะทำให้คุณราบรื่นมากขึ้น มีข้อดีอย่างไร:
- เพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายสูงสุดในพื้นที่ทำงานของคุณ
- พัดลมอุตสาหกรรม ช่วยควบคุมอุณหภูมิ การไหลเวียนของอากาศ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่น่าพึงพอใจสำหรับพนักงาน
อย่างไรก็ตาม การติดตั้งพัดลมอุตสาหกรรมอาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนหากไม่ดำเนินการอย่างถูกต้อง เพื่อช่วยคุณในการดำเนินการนี้ เราได้รวบรวมเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ ต่างๆ เช่น การเลือกประเภทของพัดลมที่เหมาะกับความต้องการของคุณ กำหนดขนาดพัดลมที่เหมาะสม การต่อสายไฟให้ถูกต้อง การจัดวางพื้นที่ ข้อควรระวังด้านความปลอดภัยที่จำเป็นระหว่างการติดตั้ง เพื่อการติดตั้งพัดลมอุตสาหกรรมของท่านเป็นไปอย่างที่ราบรื่น
การปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ คุณจะเพิ่มความสะดวกสบายโดยรวม และช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานอีกด้วย ไม่ว่าคุณจะติดตั้งพัดลมในคลังสินค้า โรงงานผลิต หรือโรงงานอุตสาหกรรมใดๆ บทความในเว็ปไซด์นี้จะให้ความรู้ที่จำเป็นเพื่อให้การติดตั้งพัดลมอุตสาหกรรมไม่ยุ่งยาก เตรียมพร้อมยกระดับพื้นที่ทำงานของคุณไปอีกระดับด้วยเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ