พัดลมไอเย็น

ชวนรู้จัก “ พัดลมไอเย็น ”  ไอเท็มคลายร้อน เบาค่าไฟ สบายได้ไม่ง้อแอร์

ด้วยสภาพอากาศร้อนจัดของประเทศไทยที่เรียกได้ว่า “ร้อนทั้งปี” ทำให้ผู้คนมองหาความเย็นด้วยอุปกรณ์และวิธีต่าง ๆ หนึ่งในนั้นก็คือพัดลมไอเย็นที่จะมาช่วยคลายร้อนโดยไม่ต้องรู้สึกหนาวกับบิลค่าไฟที่ตามมา แต่เชื่อว่าหลายคนยังสับสนระหว่างพัดลมไอเย็นกับพัดลมไอน้ำว่าคือตัวเดียวกันหรือไม่ โดยเราจะมาทำความรู้จักกับพัดลมไอเย็น มีข้อดีข้อเสียอย่างไร ใช้ดีไหม วิธีเลือกพัดลมไอเย็นให้เหมาะสม และการดูแลรักษาพัดลมไอเย็นอย่างถูกวิธีกัน

พัดลมไอเย็นคืออะไร ???

พัดลมไอเย็น  ( Evaporative Air Cooler )  เป็นพัดลมที่ทำงาน  ด้วยการนำพาอากาศร้อนผ่านไปยังแผ่นทำความเย็น (Cooling Pad) หรือแผงรังผึ้งที่มีน้ำเย็นกักเก็บไว้  จากนั้นน้ำจะระเหยกลายเป็นไอเย็นแล้วใบพัดเป่าลมออกมาทางด้านหน้าของตัวเครื่อง แต่จะไม่มีไอน้ำออกมา ทำให้แรงลมที่ได้นั้นออกมาเป็นความเย็นสดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติกว่าพัดลมทั่วไป ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิภายในห้องได้มากถึง 2 – 8 องศาเซลเซียส

ข้อดี – ข้อเสียของพัดลมไอเย็น

จุดเด่นของพัดลมไอเย็น ที่เห็นได้ชัดคือให้ลมเย็นสดชื่นเหมือนลมธรรมชาติ โดยมีฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ให้เลือกตามความต้องการ แต่ก็มีข้อดีข้อเสียที่ควรพิจารณาด้วยเช่นกันดังนี้

ข้อดี

  • ช่วยให้อุณหภูมิห้องลดลง 2 – 8 องศาเซลเซียส
  • ใช้งานง่าย เคลื่อนย้ายไปยังบริเวณต่าง ๆ ได้สะดวก
  • ราคาถูก ติดตั้งง่ายกว่าเครื่องปรับอากาศ
  • ไม่มีละอองน้ำออกมา ช่วยให้ห้องไม่อับชื้น
  • สามารถใช้ได้ทั้งในบริเวณพื้นที่เปิดและปิด
  • บำรุงรักษาง่าย ค่าใช้จ่ายในการดูแลน้อย
  • ประหยัดค่าไฟมากกว่าเครื่องปรับอากาศ
  • ช่วยประหยัดพลังงานทั้งไฟฟ้าและน้ำ เพราะใช้ระบบหมุนเวียนน้ำ

ข้อเสีย

  • ต้องหมั่นเติมน้ำเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • อาจให้ความเย็นได้ไม่เท่าเครื่องปรับอากาศ
  • เมื่อใช้ในห้องปิดนาน ๆ อาจก่อให้เกิดกลิ่นอับชื้นภายในห้อง
  • เสียงดังกว่าพัดลมทั่วไป
  • ต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดช่องใส่น้ำบ่อย ๆ

การเลือกพัดลมไอเย็นให้เหมาะสมกับขนาดห้อง

ในการเลือกขนาดของพัดลมไอเย็น จะต้องมีความสัมพันธ์กับขนาดของพื้นที่ในห้องที่จะนำไปใช้งาน เช่น  หากขนาดห้องกว้าง  แต่เลือกเครื่องพัดลมไอเย็นขนาดเล็ก อาจทำให้เครื่องกระจายลมได้ไม่ทั่วถึง   ดังนั้นจึงมีวิธีคำนวณมวลอากาศที่เรียกว่า CFM (Cubic Feet per minute)  นั่นคือ (ขนาดพื้นที่ห้อง (ตารางฟุต) x 8) / 2

ตัวอย่างเช่น

ถ้าห้องมีขนาด 25 ตารางเมตร หรือประมาณ 236 ตารางฟุต ให้นำตัวเลข (236 x 8) / 2 = 944 CFM หมายความว่าห้องที่มีขนาด 25 ตารางเมตร ควรเลือกพัดลมไอเย็นที่สามารถทำความเย็นได้ไม่ต่ำกว่า 944 CFM

วิธีการใช้งานพัดลมไอเย็นในห้อง ???

โดย พัดลมไอเย็นจะสามารถทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อ  ห้องนั้นมีอากาศถ่ายเทสะดวก    มีลมหรืออากาศจากภายนอกถ่ายเทเข้ามาตลอดเวลา แม้ว่าจะลดอุณหภูมิภายในห้องได้ไม่มากเท่าเครื่องปรับอากาศก็ตามที แต่ก็ยังคงตอบโจทย์การใช้งานในช่วงกลางวันที่มีสภาพอากาศร้อน  ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟกว่า   รูปทรงมีล้อเลื่อนที่เคลื่อนที่ไปใช้งานบริเวณต่าง ๆอย่างสะดวก   เพียงแค่อาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานในห้องปิด เพราะเมื่ออากาศไม่ถ่ายเทจะทำให้ห้องมีกลิ่นอับได้

วิธีการดูแลรักษาพัดลมไอเย็น . . อย่างถูกวิธี

หลังใช้งานพัดลมไอเย็นแล้ว   ควรปิดระบบน้ำแล้วเปิดเครื่องให้ทำงานเป่าลมต่ออีกประมาณ 10 – 15 นาที เพื่อให้แผงรังผึ้งแห้งสนิทก่อน ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะเกิดการอับชื้นและเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ จะเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของแผงรังผึ้งให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับ ควรหมั่นล้างตัวถังเก็บน้ำด้านล่าง แผ่นกรองฝุ่นและแผงทำความเย็น ทุก ๆ 2 สัปดาห์ เพื่อจะเป็นการกำจัดฝุ่นที่ตกค้างข้างใน ซึ่งจะช่วยให้เครื่องไม่ต้องทำงานหนัก แล้วจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำพาลมเย็น ๆ ออกมาได้อย่างดี

ความแตกต่างของพัดลมไอเย็น กับ พัดลมไอน้ำ

หลายคนเข้าใจว่าพัดลมไอเย็นและพัดลมไอน้ำ คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดเดียวกัน เพราะมีชื่อเรียกใกล้เคียงกัน ทั้ง ๆ ที่มีระบบการทำงานและการใช้งานแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้เราจึงจำเป็นที่จะต้องเข้าใจเพื่อ เรียนรู้ไว้ เพื่อการเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม

พัดลมไอเย็น    เครื่องใช้ไฟฟ้า  ซึ่งทำงานด้วยการดึงเอาความร้อนของอากาศ จากแผ่นทำความเย็น ทำให้น้ำระเหยออก  จนเหลือเพียงอุณหภูมิที่ลดลง ส่งผลให้พื้นที่ที่ใช้งานมีความเย็น สดชื่นแบบไม่มีความชื้นในอากาศ  มีความเหมาะสมต่อการใช้งานภายในบ้านหรือบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก

พัดลมไอน้ำ    เครื่องใช้ไฟฟ้า   ซึ่งจะทำงานด้วยวิธีการพ่นละอองน้ำออกมา จากนั้นใบพัดจะเป่าละอองน้ำให้กระจายตัวไปทั่ว   ซึ่งมีความเหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่เปิดหรือพื้นที่โล่งแจ้ง เช่น ในสวน ศาลากลางแจ้ง  แต่ไม่เหมาะกับพื้นที่ปิดหรือพื้นที่อับ เช่น ภายในบ้าน ในโรงอาหาร เพราะจะทำให้เกิดความอับชื้นเสี่ยงต่อเชื้อราขึ้นได้

อย่างไรก็ดี  ช่วงอากาศร้อน ๆ แบบนี้    ใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการคลายร้อนแบบใช้งานง่าย สะดวก และเหมาะสมภายในที่อาศัยอยู่  พัดลมไอเย็นถือว่าเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว เพราะสามารถให้ความเย็นสดชื่นได้เหมือนเครื่องปรับอากาศ แต่มีราคาถูกกว่า และช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่า รวมถึงสามารถนำไปเคลื่อนย้ายไปใช้ในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ดูแลรักษาง่าย เมื่อเลือกขนาดของพัดลมไอเย็นให้เหมาะสมกับพื้นที่ห้องเท่านั้นเอง